วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การดื่มกาแฟหลังอาหาร

*************************

     ถ้วยกาแฟหลังอาหารค่ำจะมีขนาดเล็กกว่าถ้วยกาแฟตอนเช้า เพราะจุดประสงค์ของการรับประทานกาแฟตอนค่ำนี้ รับประทานเป็นการล้างปากเท่านั้น เนื่องจากทุกคนอิ่มอาหารอยู่แล้ว เวลาเติมน้ำตาล นม แล้วคนกาแฟเบาๆ จากนั้นวางช้อนที่จานรอง ห้ามวางทิ้งคาไว้ในถ้วยกาแฟ และไม่ต้องตักชิม เวลายกถ้วยกาแฟ ไม่ต้องยกจานรองขึ้นมาด้วย

เก็บตก

*สำหรับสุภาพบุรุษที่ปกติชอบสูบบุหรี่หลังรับประทานอาหารเสร็จ หากท่านเป็นเพียงคนเดียวในนั้นที่สูบ ควรจะงดเสียจะดีกว่า แต่ถ้าจะสูบก็ควรถามหรือขออนุญาตจากผู้ที่นั่งใกล้เสียก่อน ถ้าบังเอิญเจ้าภาพไม่ได้เตรียมที่เขี่ยบุหรี่ไว้ให้ ควรจะขอดีกว่าเขี่ยบุหรี่ในจานอาหารบนโต๊ะ

*เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ พับผ้ากันเปื้อน (ไม่ต้องเรียบร้อยนัก) วางไว้บนโต๊ะอาหาร เมื่อลุกจากโต๊ะ สุภาพบุรุษต้องดูแลช่วยเหลือเลื่อนเก้าอี้ให้สุภาพสตรีที่อยู่ทางขวาของสุภาพบุรุษ

*********************************************************

สิ่งที่ไม่ควรทำขณะรับประทานอาหาร

****************************************

* ไม่ผายลม ขณะรับประทานอาหาร
* ไม่ถ่มถุย ขณะรับประทานอาหาi
* ไม่กล่าวสิ่งที่น่ารังเกียจ เช่น อุจจาระ เป็นต้น ขณะรับประทานอาหาร
* ไม่เล่นหยอกล้อเล่นกัน ขณะรับประทานอาหาร
* ไม่ทะเลาะกัน ขณะรับประทานอาหาร
* ไม่หัวเราะ ขณะรับประทานอาหาร
* ไม่พูดมาก ดังที่ภาษิตว่า “ดักเมื่อกินเข้า ดักเมื่อเข้านอน” (ดัก-เงียบ, เข้า-ข้าว”)
* ไม่เอาช้อนเคาะกัน ไม่เอาช้อนเคาะถ้วยชามหรือขันโตกให้เกิดเสียงดัง
* ไม่นินทาผู้อื่นในขณะกินข้าว (เชื่อว่าจะทำให้ผู้ถูกนินทาฝันถึงอวัยวะเพศของผู้นินทา)
* ไม่ใช้ช้อนคนแกงหรืออาหารจนหกล้นถ้วย
* ไม่ไซ้หรือตักค้นหากินเฉพาะสิ่งที่ตนเองชอบกินเท่านั้น
* ไม่กินบกจกลง คือ คดข้าวหรือตักกินอาหารเฉพาะตรงกลาง
* ไม่ใช้ปากเล็มหรือเลียข้าวและอาหารที่ติดมือ หรือจูบมือที่เปื้อนอาหาร
* เมื่ออิ่มแล้วไม่บ่นว่า “คัดท้อง-กั๊ดต๊อง” ถือเป็นคนโง่ ไม่รู้จักประมาณตน
* ไม่จกหม้อแกง คือ ไม่แอบกินก่อนหรือลับหลังผู้อื่น โดยตักหรือหยิบกินคาหม้อแกง

************************************************************

มารยาททั่วไปในการรับประทานอาหาร

*****************************************

* อย่ารับประทานเร็วหรือช้าเกินไป ควรชำเลืองดูคนอื่นด้วย ถ้าส่วนใหญ่เขาอิ่มเราก็ควรจะอิ่มพร้อมๆกับเขา
* ไม่ควรตั้งหน้าตั้งตารับประทานตลอดเวลาจนไม่ได้พูดอะไรกับใครเลย ควรพูดคุยกับผู้อยู่ใกล้เคียงพอสมควร
* อย่ารับประทานอาหารคำโตมาก จนดูน่าเกลียด
* ไม่พูดคุยขณะที่อาหารอยู่ในปาก
* อย่าหวังดีกับคนอื่นด้วยการเติมเกลือ พริกไทย ซอสให้เขา เพียงช่วยส่งให้ก็พอแล้ว
* อย่าใช้ผ้ากันเปื้อนแทนผ้าเช็ดปาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นการเลี้ยงที่บ้าน แม่บ้านอาจจะตั้งใจใช้ชุดเก่าที่สุด ดีที่สุดที่เขามีอยู่ ถ้าคุณเช็ดปากเปื้อนลิปสติก เปื้อนอาหารไปหมด เขาซักไม่ออก เขาจะเสียใจมาก
* ไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรจิ้มฟันที่โต๊ะอาหาร ควรจะไปจัดการที่ห้องน้ำ เมื่อรับประทานเสร็จ
* ไม่ควรเคี้ยวอาหารเสียงดัง
* เวลาตักอาหารเข้าปาก ไม่ต้องแลบลิ้นออกมารับอาหาร
* อย่าตักอาหารเต็มช้อนเกินไป จะทำให้อาหารหก หรือหยดใส่ผ้าปูโต๊ะ
* ไม่ควรดื่มน้ำเมื่อมีอาหารอยู่ในปาก หรือดื่มน้ำพลางเคี้ยวพลาง
* ห้ามยกข้อศอกขึ้นโต๊ะ
* อย่าเขี่ยอาหารในจานเล่น ขณะคุย หรือหมุนแก้วน้ำ หรือใช้มีด ช้อน ส้อม เคาะโต๊ะ
* ในการรับประทานอาหารที่บ้าน เมื่อแม่บ้านนำอาหารมาเสิร์ฟ ท่านไม่ควรปฏิเสธว่ารับประทานไม่ได้ ไม่ชอบ ต้องพยายามรับประทานทุกอย่างที่เจ้าภาพเขาตั้งใจทำเพื่อเสิร์ฟเราสองสามคำพอเป็นพิธีก็ยังดี
* อย่าทำช้อน ส้อม เครื่องใช้ตก อย่าก้มลงหยิบ ควรขอใหม่
* ควรส่งโน้ตไปขอบคุณเจ้าภาพในวันรุ่งขึ้น ที่เขาเชิญเราไปรับประทานอาหาร

****************************************************

มารยาทในการไปงานค็อกเทล

*********************************

เป็นงานสร้างสรรค์ เดินคุยกัน มีเครื่องดื่ม เช่น เหล้า น้ำหวาน เสิร์ฟกับออเดิฟชิ้นเล็กๆ ให้รับประทานเป็นของแกล้ม งานนี้เริ่มประมาณ 18.00 - 20.30 น. หรือ 21.00 น.เป็นอย่างดึก ถ้าแขกไม่รับประทานอาหารเย็นไปก่อน ก็ต้องบอกที่บ้านให้เตรียมไว้ เพราะงานค็อกเทลไม่ต้องรับประทานจนอิ่ม

-  ไม่ควรไปตั้งหน้าตั้งตารับประทานอาหารจนอิ่ม ปักหลักอยู่ที่โต๊ะอาหารจนคนอื่นเข้าไม่ถึง
-  ไม่ควรหยิบอาหารมาถือไว้ในมือครั้งละหลายๆชิ้น ในขณะที่คุยอยู่กับคนอื่น
-  ไม่ผูกขากคุยกับคนใดคนหนึ่ง แต่ควรจะคุยให้ทั่วๆ นอกเสียจากเราไม่รู้จักใครเลยและเพิ่งจะเคยออกงานเป็นครั้งแรก อาจจะเกาะใครที่รู้จักไว้สักคน
-  งานค็อกเทลเช่นนี้ ไม่เป็นการเสียหายที่เราจะแนะนำตัวเองให้กับคนอื่นที่ไม่รู้จักมาก่อน
-  ไม่จำเป็นต้องอยู่จนงานเลิก

********************************************************

มารยาทในการรับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์

************************************************

         การรับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ เป็นการรับประทานอาหารโดยให้ผู้รับประทานช่วยเหลือตนเอง มีการนำอาหารหลากหลายชนิดมาจัดวางเป็นจุด ๆ เพื่อให้ผู้รับประทานเลือกตักอาหารตามความพอใจ ขณะที่รับประทานอาหารอาจมีการสังสรรค์ เพื่อทำให้ประหยัดเวลาก็ได้ ในการรับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ควรปฏิบัติดังนี้


1. ควรลุกไปตักอาหารเอง โดยยืนต่อแถวและอย่าให้เป็นภาระของผู้อื่น ไม่หยิบอาหาร ช้อนส้อม หรือตักอาหารแจกผู้อื่น แต่ละคนต้องช่วยเหลือตนเอง

2. ไม่พูดคุยขณะที่ตักอาหาร รีบตักอาหารเพื่อให้ผู้อื่นได้ตักอาหารบ้าง

3. อย่าตักอาหารให้ล้นจาน

4. ตักอาหารเป็นอย่าง ๆ อย่าวางสุมทับกัน ถ้าของเป็นชิ้นควรหยิบเพียงหนึ่งชิ้น จะหยิบเกินกว่าหนึ่งก็ต่อเมื่อผู้อื่นได้ครบแล้ว

5. อาหารที่ตักมาต้องรับประทานให้หมด ถ้าไม่พอสามารถลุกเติมได้

6. เมื่อรับประทานเสร็จต้องเขี่ยเศษอาหารในจาน และรวบช้อนส้อมให้เรียบร้อย

7. กระดาษเช็ดมือไม่ควรใส่ในจานอาหาร เพราะจะทำให้ปลิว เก็บลำบาก ควรใช้จานวางทับไว้

8. ถ้ามีการกำหนดให้เอาจานอาหารวางไว้ที่ใด เมื่อรับประทานเสร็จแล้วควรปฏิบัติตาม

9. อย่าตักอาหารเผื่อผู้อื่น

10. อาหารหวาน ควรตักเมื่อรับประทานอาคารคาวเสร็จแล้ว

11. ไม่เบียดหรือแซงผู้อื่น ไม่ยื่นมือไปตักอาหารข้ามมือหรือแขน ควรคอยจังหวะให้ผู้อื่นตักเสร็จเสียก่อน แม้ว่าจะเป็นอาหารที่ชอบก็ตาม

เพิ่มเติม

1. ไม่ควรตักก่อนที่เจ้าภาพจะเชิญ

2. ไม่ควรตักอาหารจนล้นชามแล้วรับประทานไม่หมด

3. ไม่ควรตักของหวานหรือผลไม้เกินกว่าที่ตนจะรับประทานได้

4. เมื่อต้องการอาหารเพิ่มเติม ต้องใช้ช้อนกลาง ไม่ควรใช้ช้อนของตนตักอาหาร

5. เมื่อตนตักอาหารชนิดใดแล้ว ต้องให้โอกาสคนอื่นเข้าได้ตักบ้าง ไม่ควรยืนปักหลักอยู่ที่โต๊ะ

6. ไม่ควรลุกไปตักอาหารพร่ำเพรื่อจนเกินควร

7. รับประทานอาหารที่ตักมาให้หมด ไม่ควรเหลือทิ้งไว้บนจานมาก

8. เมื่อรับประทานอาหารเสร็จควรรวบช้อนส้อมเข้าคู่ด้วยกัน

9. เมื่อจะกลับควรลาเจ้าภาพและกล่าวคำขอบคุณ

********************************************************

มารยาทในการรับประทานอาหารในร้าน

*****************************************

-  สุภาพสตรีไม่ควรสั่งอาหารโดยตรงจากคนรับใช้

-  ถ้าสุภาพสตรีอ่านเมนูไม่เป็น อาจจะแกล้งถามสุภาพบุรุษว่าเขาจะสั่งอะไร แล้วสั่งเหมือนเขาเลยก็ได้

-  ไม่ควรเลือกอาหารที่แพงมากๆ เกินจำเป็น

-  เมื่อสุภาพสตรีลุกจากโต๊ะ สุภาพบุรุษต้องลุกขึ้นยืนด้วย สุภาพสตรีไปแล้วสุภาพบุรุษจึงนั่งได้ ฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นสุภาพสตรีไม่ควรจะลุกจากโต๊ะบ่อยเกินไป

-  ไม่ควรวางห่อของ กระเป๋าถือ ถุง บนโต๊ะอาหาร ควรวางบนตักหรือขอให้คนรับใช้นำเก้าอี้มาวางให้

******************************************************

มารยาทในการรับประทานเนื้อ

***********************************

         เนื้อถือว่าเป็นจานหลัก แต่ก่อนจานเนื้อจะเสิร์ฟ สลัดจะมาก่อน ให้ใช้ส้อมจิ้มสลัดรับประทานห้ามแบ่งจากถ้วยสลัดมาใส่จานอื่น ถ้าผักชิ้นโตไปใช้มีดตัดก็ได้

          ไม่ว่าจะเป็นเนื้ออะไรก็ตาม บนโต๊ะอาหารจะมีมีดและส้อมเตรียมไว้ (มีดเนื้อจะใหญ่กว่ามีดปลา) ส้อมที่ใช้กับอาหารประเภทนี้ใหญ่กว่าอื่นๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ ที่สำคัญที่สุด คือใช้มีดและใช้ส้อมจิ้มรับประทานทีละช้อน ไม่ควรตัดเป็นชิ้นๆ จนหมดจานทีเดียวแล้วทิ้งมีดแล้วตั้งหน้าตั้งตาใช้ส้อมจิ้มรับประทานตามสบาย (นอกเสียจากรับประทานที่บ้านคนเดียว)

            ในระหว่างรับประทานอาหาร ถ้าเป็นการเลี้ยงที่บ้าน แขกไม่ควรจะเรียกหาเครื่องปรุงรส เครื่องชูรส น้ำซอสต่างๆ ให้มากนัก เพราะจะทำให้เจ้าภาพเสียใจว่าอาหารของเขาไม่อร่อย ควรจะพยายามพอใจแค่ เกลือ พริกไทย ที่เขาเตรียมไว้ทุกครั้งที่ขอให้ใครหยิบอะไรให้ แล้วอย่าลืมคำว่า "กรุณา" และ "ขอบคุณ" ให้ติดปากเสมอ

เก็บตก

-  คนอังกฤษจะใช้มือขวาจับมีด มือซ้ายส้อม รับประทานอาหารไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนมือ หรือวางมีดจนจบรายการ ถ้าถือส้อมต้องคว่ำในขณะที่จิ้มเข้าปาก

-  แต่คนอเมริกา ใช้มือจับมีดหั่นเรียบร้อยแล้ว วางมีดลง ใช้มือขวาจับส้อม จิ้มอาหารเข้าปากสลับไปมาเช่นนี้ จนรับประทานอาหารเสร็จ

(คนไทยนิยมรับประทานแบบอังกฤษมากกว่า)

มารยาทในการรับประทานปลา

***********************************

           ในกรณีที่อาหารหลักเป็นปลา มีดที่เจ้าภาพจัดให้จะเป็นมีดปลา ซึ่งมีปลายมนไม่มีสันคมเหมาะแก่การ เลาะก้างปลาและรับประทานปลา ซึ่งจะวางถัดจากมีดสลัดเข้ามา  เนื้อปลานิ่มอยู่แล้ว มีบ่อยๆ ที่เห็นคนใช้มีดจิ้มปลาเข้าปากแทนส้อม ซึ่งถือว่าเป็นการผิดมารยาทอย่างมาก ถ้าปลามีก้าง ค่อยๆใช้ลิ้นดุลแล้วใช้ส้อมรับออกมาวางไว้ที่ขอบจาน แต่ต้องระวังให้มิดชิดด้วย

**************************************************

อาหารหลัก (ENTRÉE)

*************************

           หลังจากบริกรเก็บจานสลัดเรียบร้อยแล้ว จะทำการเสิร์ฟอาหารหลักซึ่งการเสิร์ฟอาจเสิร์ฟเป็นจาน (PLATE) หรือเสิร์ฟแบบจานเปล (PLATTER) ในการเสิร์ฟเป็นจานจะเสิร์ฟเป็นรายบุคคล โดยบริกรจะยก เสิร์ฟเข้าด้านซ้าย เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็เริ่มรับประทานได้ ในกรณีหลังเช่น การเสิร์ฟปลา บริกรจะนำจานเปลอาหารใช้เลือกรับประทานโดยเข้าทางด้านซ้าย แขกจะใช้ช้อนและส้อมใหญ่ในจาน เปลนั้น นำอาหารจากจานเปลมาไว้ที่จานตนเอง โดยทั่วไปอาหารจะหั่นเป็นชิ้นมาเรียบร้อยแล้วในจานเปล แต่ ถ้าไม่ได้หั่นก็สามารถใช้ช้อนใหญ่หั่นได้ สำหรับจานเปลที่เสิร์ฟอาหารประเภทผัก ช้อนตัก จะมีร่องเพื่อไม่ให้ส่วนประกอบที่เป็นของเหลวหยดเปรอะเปื้อนตอนตักใส่จาน

**********************************************************

มารยาทในการรับประทานซุป

****************************        

          เมื่อบริกรเสิร์ฟซุปแล้ว จะต้องรีบรับประทาน เพราะซุปจะเย็น และในการเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์สนั้น บริกรจะรอแขกคนสุดท้ายรับประทานอาหารคอร์สนั้นๆ เสร็จแล้วจึงยกออก พึงหลีกเลี่ยงการ บิขนมปังจากจานขนมปังลงในซุป สำหรับซุปที่ควรมีขนมปังบิใส่ เช่น CLAM CHOWDER จะมีบริการขนมปังพิเศษเหมาะแก่การใส่ลงในซุปโดยบริกร หรือมีการจัดวางมาเป็นเครื่องเคียงซุปในจานรองซุปให้
โดยทั่วไปผู้รับเชิญจะต้องรอจนอาหารแต่ละคอร์สได้วางตรงหน้าทุกคน และเจ้าภาพเชิญให้เริ่มรับประทานจึงจะรับประทาน แต่ในงานเลี้ยงใหญ่ เจ้าภาพฝ่ายหญิงอาจเชิญให้รับประทานทันทีที่ได้รับเสิร์ฟเพื่ออาหารจะได้ไม่เย็น ในกรณีนั้นควรรอให้พร้อมรับประทาน 3-4 คน ก่อน จึงเริ่มรับประทาน
ซุบบางประเภท เช่น ซุปใส (CONSOMME) ที่เสิร์ฟในถ้วยมีหูสองข้าง สามารถจับหูทั้งสองยก รับประทานได้ นอกนั้นควรใช้ช้อนซุปในการรับประทาน ถ้าซุปเสิร์ฟในจานใหญ่ ให้วางช้อนไว้ในจานเมื่ออิ่มแล้วถ้าเสิร์ฟในถ้วยให้วางช้อนในจานรอง

****************************************************

การรับประทานขนมปัง

**************************

              จานขนมปังจะอยู่ด้านซ้ายของผู้นั่งและบนจานจะมีมีดเนยรูปทรงแบบปลายมน ใช้สำหรับตักเนยใน จานเพื่อทาขนมปังแต่ละชิ้นก่อนรับประทาน บริกรจะเสิร์ฟขนมปังรายบุคคลหรือวางตะกร้าขนมปังบนโต๊ะ ในกรณีที่เสิร์ฟรายบุคคล บริกรจะนำตะกร้ามาบริการทางซ้าย ท่านจะชี้หรือระบุว่าต้องการขนมปังใด (ถ้ามีให้ เลือก) ซึ่งบริกรจะตักวางบนจานขนมปังของท่าน ถ้าเป็นตะกร้าขนมปังให้ใช้ที่คีบหรือมือหยิบขนมปังที่ ต้องการวางบนจานขนมปังของท่าน พึงหลีกเลี่ยงการบีบหรือคลำขนมปังในตะกร้า (เพื่อตรวจสอบความนิ่ม หรือแข็ง) ชิ้นใดที่จับแล้วควรหยิบมารับประทาน การตักเนยจากเนยจานกลาง (นอกจากในกรณีที่ท่านเลือก GARLIC BREAD ซึ่งทาเนยและกระเทียมพร้อมแล้ว) ท่านจะต้องตักเนยจากเนยจานกลาง โดยทั่วไปเนยจานกลางจะจัดเป็นเนยก้อนๆ รูปสี่เหลี่ยม, เปลือกหอย ฯลฯ และมีมีดเนยกลางอยู่ ท่านจะใช้มีดเนยกลางตักเนยมาวางบนจานขนมปังของท่านก่อน หลังจากนั้นจึงจะใช้มีดเนยตนเองทาเนยบนขนมปัง อย่าตักเนยจากจานเนยกลางมาทาขนมปังโดยตรง มารยาทในการรับประทานขนมปังกับเนยคือ ทานเป็นคำ ดังนั้นท่านจะต้องฉีกขนมปังเป็นชิ้นพอดีคำก่อนและจึงทาเนยก่อนรับประทาน อย่ารับประทานโดยการกัดขนมปังนั้นโดยมารยาททั่วไปไม่ควรนำขนมปังมาเช็ดน้ำเกรวี่หรือน้ำซ้อสในจานอาหารหลัก (ENTREE) แต่ในบางประเทศ เช่น อิตาลี การนำขนมปังมาเช็ดซ้อส ถือว่าเป็นการให้เกียรติ แสดงความอร่อยจนหยุดสุดท้ายของน้ำซ้อส (พ่อครัวอาจออกมากอดท่านขอบคุณในการให้เกียรติอย่างสูง)

*******************************************************